เมื่อต้องการแต่งประโยคใน Present Simple Tense ให้มีความหมายเชิงคำถาม ทำได้ด้วยการนำ do หรือ does มาวางไว้หน้าประโยค และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้างของประโยคดังนี้
โครงสร้าง: Do / Does + Subject + Verb 1? (Do / Does + ประธาน + กริยาช่องที่ 1)
ตัวอย่าง:
1. Does he walk to school? (เขาเดินไปโรงเรียนใช่หรือไม่)
-Yes, he does. (ใช่ เขาเดินไปโรงเรียน) /
No, he doesn’t. ( ไม่ใช่ เขาไม่ได้เดินไปโรงเรียน )
ประโยค Present Simple Tense เชิงปฏิเสธ
เมื่อต้องการแต่งประโยคใน Present Simple Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธ ทำได้ด้วยการใช้ Verb to do มาช่วย มีหลักการใช้ดังนี้
do ใช้กับประธานพหูพจน์ และ I กับ you
does ใช้กับประธานเอกพจน์ ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง: Subject + do / does + not + Verb 1
(ประธาน + do / does + not + กริยาช่องที่ 1)
ตัวอย่าง:
1. I do not (don’t) go to school by car. (ฉันไม่ไปโรงเรียนโดยรถยนต์)
2. He does not (doesn’t) walk to school. (เขาไม่เดินไปโรงเรียน)
หลักการใช้ Present Simple Tense
1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เป็นความจริงตลอดไปหรือเป็นความจริงตามธรรมชาติ เช่น 1. The sun rises in the east.( พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก )
2. Fire is hot. (ไฟร้อน)
โครงสร้าง: Do / Does + Subject + Verb 1? (Do / Does + ประธาน + กริยาช่องที่ 1)
ตัวอย่าง:
1. Does he walk to school? (เขาเดินไปโรงเรียนใช่หรือไม่)
-Yes, he does. (ใช่ เขาเดินไปโรงเรียน) /
No, he doesn’t. ( ไม่ใช่ เขาไม่ได้เดินไปโรงเรียน )
ประโยค Present Simple Tense เชิงปฏิเสธ
เมื่อต้องการแต่งประโยคใน Present Simple Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธ ทำได้ด้วยการใช้ Verb to do มาช่วย มีหลักการใช้ดังนี้
do ใช้กับประธานพหูพจน์ และ I กับ you
does ใช้กับประธานเอกพจน์ ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง: Subject + do / does + not + Verb 1
(ประธาน + do / does + not + กริยาช่องที่ 1)
ตัวอย่าง:
1. I do not (don’t) go to school by car. (ฉันไม่ไปโรงเรียนโดยรถยนต์)
2. He does not (doesn’t) walk to school. (เขาไม่เดินไปโรงเรียน)
หลักการใช้ Present Simple Tense
1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เป็นความจริงตลอดไปหรือเป็นความจริงตามธรรมชาติ เช่น 1. The sun rises in the east.( พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก )
2. Fire is hot. (ไฟร้อน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น