วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Tense and Tense

                     พวกเราเคยสงสัยกันไหมครับว่า Tense ในภาษาอังกฤษมีไว้ทำไม เเล้วทำไมเราถึงต้องเรียนเรื่องนี้ด้วย
หลายต่อหลายคนเกลียดภาษาอังกฤษเพราะเจอเจ้า Tense นี้ละครับ ผมเองก็ไม่ชอบ เเต่ผมไม่เคยท่องหรือจำนะครับ ให้นึกถึงการทำกับข้าว เราจะทำอาหารขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง เราต้องท่องตลอดไหมครับว่าต้องมีอะไรบ้างเป็นส่วนประกอบ ถ้าจะทำลาบหมูแต่มะนาวไม่มีใช้มะกรูดแทนจะยังเป็นลาบหมูอยู่ไหม หรือทำส้มตำแต่ไม่ใส่ปลาร้าจะยังอร่อยอยู่ไหม คำตอบคือมันก็ยังเป็นอาหารชนิดนั้นเหมือนเดิมครับ ตราบใดที่ส่วนประกอบหลักยังเหมือนเดิม ภาษาอังกฤษก็เหมือนกันครับ Tense ก็เหมือนกับเครื่องปรุงรสที่ทำให้อาหารรสชาติสมบูรณ์ขั้นนั้นละครับ ฝรั่งเขาไม่ต้องมานั่งท่องนะครับว่าจะพูดอะไรเเล้วต้องใช้Tense ตัวไหน ฉะนั้น เลิกท่องเเล้วหันมาทำความเข้าใจกับมันครับเมื่อเราเข้าใจเเล้วเราก็จะใช้ได้ไปเอง มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ 


       

                                               Tense



ภาษาอังกฤษนั้นมีรูปแบบประโยคที่เรียกว่า Tense เอาไว้แสดงเวลาในกรณีต่างๆ กัน โดยจะทำให้ส่วนของ Verb นั้นเปลี่ยนรูปแบบไป (ซึ่ง verb ที่เปลี่ยนไปตาม Tense คือ Verb แท้ของประโยค) แบ่งเป็น 3 ประเภทเวลาใหญ่ๆ คือ
ปัจจุบัน Present = V1, อดีต Past = V2, อนาคต Future = Will + V
แต่ละเวลาจะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบย่อย คือ

Simple = V (รูปแบบอย่างง่าย) ที่เราพูดโดยปกติทั่วๆไป

Continuous = be + Ving (กำลังทำ)  กำลังเกิดขึ้นกำลังทำอยู่

Perfect = Have + V3 (เกิดก่อนอีกอัน เวลาไม่สำคัญ)  


1.Present Tenseใช้สำหรับบอกเหตุการณ์ในปัจจุบัน


- Present Simple = ใช้บอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เป็นจริงเสมอ = รูปแบบ คือ S + V1 (ผันตามประธาน) เช่น He watches TV everyday.
- Present Continuous = ใช้บอกเหตการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน = รูปแบบ คือ S + is/am/are + Ving [be ผสมกับ V1 ได้ is/am/are] เช่น I am doing my homework.
- Present Perfect = ใช้บอกว่าได้ทำเหตุการณ์ไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยไม่ต้องระบเวลาที่แน่นอน(รู้แค่ทำไปแล้ว เวลาไม่สำคัญ) = รูปแบบ คือ S + has/have +V3 [เนื่องจาก V1 ผสม have ได้ has/have ] เช่น I have already seen that movie.

2.Past Tenseใช้สำหรับบอกเหตุการณ์ในอดีต


- Past Simple = ใช้บอกเหตุการณในอดีต ที่เกิดแล้วจบในอดีต มักระบุเวลาที่เจาะจงในอดีต = รูปแบบ คือ S + V2 เช่น I walked to school yesterday.
- Past Continuous = ใช้บอกเหตการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต (มักใช้คู่กับ Past Simple) = รูปแบบ คือ S +was/were + Ving [be ผสม V2 ได้ was/were] เช่น He was sleeping when I arrived.
- Past Perfect = ได้ทำเหตุการณ์ไปแล้วก่อนหน้าจะเกิดเหตุการณ์ในอดีตอีกอันหนึ่ง (จึงมักใช้คู่กับ Past Simple Tense) = รูปแบบ คือ S + had +V3 [เนื่องจาก V2 ผสม Have ได้ Had ] เช่น I had already eaten when they arrived.

3.Future Tenseใช้สำหรับบอกเหตุการณ์ในอนาคต


- Future Simple = ใช้บอกเหตุการณ์ในอนาคต = รูปแบบ คือ S + will + V1 เช่น It will snow tomorrow.
- Future Continuous = ใช้บอกเหตการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต = รูปแบบ คือ S +will + be + Ving เช่น He will be sleeping when we arrive.
- Future Perfect = ได้ทำเหตุการณ์ไปแล้วก่อนหน้าจะเกิดเหตุการณ์ในอนาคต = รูปแบบ คือ S + will + have +V3 เช่น I will have already eaten when you arrive.


 ไม่พูดถึง Perfect Cont. นะครับ เอาจริงๆนะครับมันมีน้อยมากที่จะเกิดเหตุการณ์ แบบ Perfect cont.
* S = Subject ประธาน หรือ ผู้กระทำ, V =Verb คือ กิริยา หรือคำแสดงการกระทำต่างๆ
**จริงๆ มีรูป Perfect Continuous ด้วย แต่คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น